เห็นของถูกใน Facebook ทีไร มือแทบลั่นโอนไวทุกที... แต่เดี๋ยวก่อน! เบื้องหลังความสะดวกสบายนี้อาจแฝงด้วย อันตรายซื้อของ Facebook ที่คุณคาดไม่ถึง ตั้งแต่ของไม่ตรงปกไปจนถึงการเชิดเงินหนี บทความนี้คือเกราะป้องกันชั้นดีที่จะช่วยให้คุณช้อปปิ้งได้อย่างปลอดภัยและรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมของมิจฉาชีพ
ความสะดวกในการช้อปออนไลน์อาจนำไปสู่ความเสี่ยงและอันตรายจากการซื้อของผ่าน Facebook ได้
สัญญาณเตือน! 5 จุดต้องเช็คก่อนโอนเงิน
มิจฉาชีพมักทิ้งร่องรอยไว้เสมอ หากคุณพบสัญญาณเหล่านี้ ให้ตั้งสติและเพิ่มความระมัดระวังเป็นสองเท่า เพราะนี่คือสัญญาณของ อันตรายซื้อของ Facebook ที่พบบ่อยที่สุด
1. โปรไฟล์ผู้ขายน่าสงสัย
บัญชีที่เพิ่งสร้าง, มีเพื่อนน้อย, ไม่มีกิจกรรมอื่นนอกจากโพสต์ขายของ, หรือใช้รูปโปรไฟล์ที่ไม่น่าเชื่อถือ คือธงแดงแรกที่ต้องระวัง บัญชีเหล่านี้อาจถูกสร้างขึ้นมาเพื่อหลอกลวงโดยเฉพาะ
2. ราคาสินค้าถูกจนน่าตกใจ
ของแบรนด์เนมมือสองสภาพนางฟ้าในราคาหลักร้อย? สินค้า “หลุดจำนำ” ที่ราคาถูกกว่าตลาด 70-80%? หากราคาดีเกินจริง ให้สงสัยไว้ก่อนว่าอาจเป็นของปลอม หรือไม่มีอยู่จริง
3. เร่งรัดการตัดสินใจและบ่ายเบี่ยงให้ข้อมูล
“เหลือชิ้นสุดท้ายแล้วค่ะ”, “มีคนรอคิวเยอะนะคะ”, “ถ้าไม่โอนภายใน 5 นาทีขอยกให้คิวถัดไป” กลยุทธ์กดดันเหล่านี้ถูกใช้เพื่อทำให้คุณไม่มีเวลาคิดหรือตรวจสอบ หากขอข้อมูลเพิ่มเติม เช่น รูปสินค้ามุมอื่น หรือวิดีโอ แล้วผู้ขายบ่ายเบี่ยง นี่คือสัญญาณอันตราย
4. ชื่อบัญชีธนาคารไม่ตรงกับชื่อผู้ขาย
นี่คือจุดที่สำคัญมาก! หากชื่อบัญชีรับโอนเงินไม่ตรงกับชื่อโปรไฟล์ Facebook ของผู้ขาย มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็น “บัญชีม้า” ที่ถูกจ้างมาเปิดเพื่อรับเงินผิดกฎหมาย ทำให้การติดตามตัวคนร้ายทำได้ยากมาก
5. รีวิวและประวัติการขาย
ร้านค้าที่น่าเชื่อถือควรมีรีวิวจากลูกค้าจริงและประวัติการขายที่ตรวจสอบได้ ระวังรีวิวปลอมที่ดูคล้ายๆ กัน หรือร้านที่ปิดคอมเมนต์ไม่ให้คนอื่นแสดงความคิดเห็น
ก่อนโอนเงินทุกครั้ง ควรตรวจสอบให้แน่ใจเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายจากการซื้อของผ่าน Facebook
วิธีเช็คคนโกง Facebook ฉบับจับมือทำ
เมื่อเจอร้านที่น่าสนใจ อย่าเพิ่งรีบโอน! ใช้เวลาสักครู่ในการตรวจสอบตามขั้นตอนเหล่านี้ ซึ่งเป็น วิธีเช็คคนโกง Facebook ที่ได้ผลและทำได้ง่ายๆ
1. ใช้ Search Bar ให้เป็นประโยชน์
นำ “ชื่อ-นามสกุล” และ “เลขที่บัญชี” ของผู้ขายไปค้นหาใน Google และช่องค้นหาของ Facebook เพื่อดูว่ามีประวัติเสียหรือไม่ ลองค้นหาในกลุ่ม “Blacklist ผู้ขายออนไลน์” หรือ “กลุ่มตรวจสอบคนโกง” ซึ่งเป็นคลังข้อมูลชั้นดี
2. ขอหลักฐานยืนยันว่ามีสินค้าจริง
อย่าลังเลที่จะขอให้ผู้ขายถ่ายรูปสินค้าคู่กับสิ่งของที่ระบุตัวตนได้ เช่น กระดาษที่เขียนชื่อ Facebook ของเขา หรือวิดีโอคอลเพื่อดูสินค้าแบบเรียลไทม์ ผู้ขายที่โปร่งใสจะยินดีทำให้เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า
3. เลือกช่องทางการชำระเงินที่ปลอดภัย
หากเป็นไปได้ ควรเลือกใช้บริการ “เก็บเงินปลายทาง (COD)” และควรสอบถามว่าสามารถเปิดเช็คสินค้าก่อนจ่ายเงินได้หรือไม่ หรือใช้แพลตฟอร์มตัวกลางที่มีระบบคุ้มครองผู้ซื้อ (Buyer Protection) เช่น การซื้อผ่าน Marketplace ที่มีตัวเลือกการชำระเงินที่ปลอดภัย
4. เก็บหลักฐานการซื้อขายทุกชิ้น
แคปหน้าจอโปรไฟล์ผู้ขาย, โพสต์ที่ประกาศขาย, บทสนทนาทั้งหมด, และสลิปการโอนเงิน หลักฐานเหล่านี้สำคัญอย่างยิ่งหากเกิดปัญหาขึ้นมา คุณสามารถใช้มันเพื่อแจ้งความดำเนินคดีและเตือนภัยผู้อื่นได้
การพูดคุยและตรวจสอบข้อมูลคือหัวใจสำคัญในการป้องกันตัวเองจากมิจฉาชีพออนไลน์
สรุป: ช้อปฉลาด รู้ทันอันตรายซื้อของ Facebook
อันตรายซื้อของ Facebook ไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่เป็นภัยเงียบที่มาพร้อมกับความสะดวกสบาย การช้อปปิ้งอย่างมีสติ ไม่โลภกับของที่ราคาถูกเกินจริง และการตรวจสอบข้อมูลผู้ขายอย่างรอบคอบ คือเกราะป้องกันที่ดีที่สุด อย่าลืมใช้ วิธีเช็คคนโกง Facebook ที่เราแนะนำไป เพื่อให้ทุกการช้อปของคุณมีความสุขและปลอดภัยจากมิจฉาชีพ
อย่าให้ความสวยงามของสินค้าบดบังความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่ในการซื้อของออนไลน์